วันที่1 เส้นทางไคโยโดะสู่Nagoya

จากความตั้งใจแรกที่จะไปพิพิธภัณฑ์โมเดลไคโยโดะที่เมืองนากาฮามะ เมื่อดูจากระยะทางแล้วคิดว่าตัดสินใจไปนาโกยะด้วยเลยน่าจะคุ้มค่ากับเวลาที่ใช้เดินทางแต่ก็ยังไม่รู้ว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง พอมาหาข้อมูลกลับพบว่าแถวๆนาโกยะมีอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด จากโปรแกรมที่จะไปกลับภายในวันเดียวก็เปลี่ยนเป็นค้างคืน ในฤดูที่ช่วงเวลากลางวันน้อยกว่ากลางคืน อุปสรรคใหญ่อีกอย่างนึงคือความหนาวที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถขยับได้อย่างกระฉับกระเฉงและพื้นทางเดินที่อันตรายส่งผลให้เลยเวลาที่กำหนดไว้จนกลายเป็นสามวันสองคืน

ระหว่างทางไปไคโยโดะ เราแวะปราสาท Hikone เป็นที่แรก แถวๆนาโกยะมีปราสาทเยอะมาก ทั้งแบบดังๆ และแบบเล็กๆที่ไม่มีใครสนใจก็มี ส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพราะสมัยก่อนมีกฏหมายให้ทำลายทิ้งเหลือเพียงเมืองละ1แห่งเท่านั้นเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการกบฎ ภายในปราสาทส่วนใหญ่ก็เป็นห้องไม้เปล่าๆ มองออกไปเห็นวิวเหมือนกับทาวเวอร์ที่เคยไปๆมา อาจดูเหมือนไม่มีอะไร แต่สิ่งที่ทำให้หลงไหลคือทางเดินคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต กว่าจะเข้าปราสาทได้ก็ทำให้อดที่จะจินตนาการวิถีชีวิตซามูไรหรือเจ้าหญิงในปราสาทไม่ได้จริงๆ 

Kaiyodo Figure museum

    หลังจากมาถึงสถานีที่จะไปดูพิพิธภัณฑ์ไคโยโดะ ใกล้ๆกันก็มีปราสาท Nagahama อยู่ตรงหน้าสถานี เป็นปราสาทริมทะเลสาบ เดินกลับมาอีกฟากของสถานีก็จะเจอแหล่งช๊อปเล็กๆที่มีพิพิธภัณฑ์ไคโยโดะแฝงตัวอยู่

    ไคโยโดะเป็นยี่ห้อโมเดลของเล่นที่ขึ้นชื่อเรื่องรายละเอียดของโมเดล ซึ่งขายเป็นกาชาปองในตู้ให้เรายอดเหรียญแล้วจะมีลูกบอลกลิ้งลงมา ข้างในก็จะเป็นโมลเดลตัวเล็กๆมีทั้งพวกสัตว์ ตุ๊กตา สิ่งของเครื่องใช้ ตัวการ์ตูน เยอะแยะให้เลือกสะสมเต็มไปหมด 














  










   ของเล่นยี่ห้อนี้เคยปฏิวัติวงการมาแล้วโดยการทำโมเดลที่มีข้อต่อขยับได้ออกมาขายดิบขายดีก่อนยี่ห้ออื่น

   บัตรเข้าพิพิธภัณฑ์แต่ละช่วงราคาไม่เท่ากัน ดันมาตอนเขาขายแพง แต่ก็แถมเหรียญให้ไปเลือกหยอดกาชาปองได้ฟรีหนึ่งตัว

   ช่วงที่ไปไคโยโดะ เป็นธีม EVANGELION ไดโอรามาอีวาห้ามถ่ายรูป แต่ส่วนอื่นของพิพิธภัณฑ์สามารถถ่ายรูปได้










Gifu castle


ช่วงบ่าย นั่งรถไฟต่ออีกประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยไม่ได้แวะปราสาทที่วางแผนไว้ถึงสองแห่ง โดยข้ามไปปราสาท gifu เลยซึ่งเป็นปราสาทที่อยู่บนยอดเขาเล็กๆ ใครจะเดินขึ้นก็ได้ใช้เวลาสามชั่วโมง อีกทางเลือกนึงคือนั่งกระเช้าเพียงไม่กี่นาทีแต่ค่านั่งแพงกว่าค่าเข้าปราสาทสองเท่า ข้างบนเขานอกจากจะมีปราสาทแล้ว ยังสร้างร้านอาหารได้อีก และก็หมู่บ้านกระรอก เปิดให้เข้าเป็นรอบๆ โดยเขาจะให้เราเป็นคนให้อาหารกระรอก แต่ต้องใส่ถุงมือเพราะฟันมันคม ให้อาหารกระรอกไปแล้วคนยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเลย พอลงจากเขามาใกล้ๆก็มีพิพิธภัณฑ์แมลง แต่ก็ไม่ได้เข้าไปเดี๋ยวจะไม่ทันไปที่อื่นต่อ


 


Twin Arch 138 Tower  

 

เราเดินทางเข้ามาในจังหวัดไอจิใกล้ตัวเมืองนาโกยะขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางครั้งนี้นอกจากจะมาดูปราสาทแล้วอีกอย่างนึงคือทาวเวอร์ดัง จาก21ทาวเวอร์ดังทั่วญี่ปุ่น จังหวัดไอจิมีถึงสามแห่ง ที่แรกที่มาคือ 138 tower เป็นสวนสาธารณะที่กว้างขวาง ถ้าไม่ขึ้นบนทาวเวอร์ก็ไม่ต้องเสียเงิน แต่ค่อนข้างมายากหน่อยเพราะรถบัสผ่านน้อย หลังจากเข้าไปแอบนั่งพักใต้แอร์จนหายหนาว(เครื่องปรับอากาศในญี่ปุ่นจะเป็นฮีตเตอร์ด้วยในตัว) ก็เดินทางเข้าเมืองนาโกยะกันต่อ


 


ในที่สุดก็มาถึงนาโกยะ วันแรกตัดสินใจพักแถวสถานี NAGOYA เลยละกัน ใต้สถานีก็มีแหล่งช๊อปแต่หลังจากกินข้าวเดินได้แป๊ปๆก็สองทุ่ม ร้านต่างๆก็พากันปิดหมดแล้ว กลับไปแช่น้ำร้อนที่โรงแรมดีกว่า

 

  > วันที่2      > วันที่3