Yokohama towers

ก่อนถึง Tokyo เราลงรถที่ Yokohama มาถ่ายรูป Yokohama Marine Tower ทาวเวอร์ประจำเมือง กับ Yokohama Landmark Tower อีกที่นึง ซึ่งแถบนี้จะเป็นแหล่งช้อปของเมือง มี Snoopy Shop , Cupnoodles Museum ฯลฯ

จากนั้นเข้า Tokyo มาลงที่สถานี Shinjuku และก็เหมือนเดิมไม่ได้มาช้อปปิ้งอะไร แต่มาตามถ่ายรูปสถาปัตยกรรมตึก Tokyo metropolitan government ออกแบบโดย Kenzo Tange มือฉมังของโลกในศตวรรษที่ 20 คนเดียวกับที่ออกแบบโครงสร้างล้อมรอบ Tower of The Sun ในงาน Expo Osaka และตึก Fuji TV Odaiba ที่เคยถ่ายรูปมาแล้ว ส่วนอีกตึกนึงที่เด่นๆในย่านนี้คือ Mode Gakuen Cocoon Tower ในตึกเดียวมีถึงสามสถาบัน โรงเรียนสอนแฟชั่น Modo , สถาบันเทคโนโลยีและการออกแบบ HAL ,สถาบันทางการแพทย์ Shuto Iko ซึ่งลักษณะของมหาลัยในญี่ปุ่น บางแห่งไม่ได้มีอาคารมีพื้นที่รั้วล้อมรอบแต่จะอยู่แค่บางชั้นตามตึกต่างๆ แต่ละสาขาก็อาจจะอยู่คนละตึกกันอีก

















Ghibli museum

สำหรับพิพิธภัณฑ์การ์ตูน Ghibli ถ่ายรูปมาได้แค่ด้านนอก แต่ด้านในน่าสนใจมาก ตกแต่งให้เหมือนว่าอยู่ในโลกการ์ตูน มีแสดงผลงานและขั้นตอนการทำอะนิเมชั่นตั้งแต่สมัยลงสีด้วยมือ ฉากแต่ละฉากที่ถูกวาดขึ้นมารายละเอียดสีสันสวยมาก ในพิพิธภัณฑ์คนเข้าชมเยอะมากต้องต่อแถวดูกันตลอด แทบจะไมได้เดินดูอย่างอิสระเลย ขนาดว่าตอนซื้อบัตรเข้าชมยังต้องซื้อก่อนเป็นเดือน







Wasabi Artsalon Tokyo

เป็นแกลอรี่เกี่ยวกับภาพยนตร์และอะนิเมชั่น มีทั้งผลงานโมเดลและภาพวาดของศิลปินจริง ลายเซ็นดารา hollywood จากหนังดังๆ สำหรับ Wasabi Artsalon ไม่ได้มีแค่ที่ Tokyo มีที่นาโกยะอีกที่นึงผลงานที่จัดแสดงก็จะไม่เหมือนกัน ส่วนที่นี้พึ่งเปิดได้ไม่นานเลยยังไม่เสียค่าเข้าชมแถมถ่ายรูปได้อีกด้วย  










Fujiko F. Fujio Museum

Fujiko Fujio เป็นนามปากกาของสองศิลปิน Fujimoto และ Abiko Motoo มีนามปากกาแยกกันโดยการเติม F. หรือ A ถ้ามี F. จะเป็นของ Fujimoto Hiroshi ผู้วาดโดราเอมอนและ perman นอกจากนี้ยังมีผลงานแนวSFที่น่าสนใจหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ ในญี่ปุ่นการ์ตูนผู้ใหญ่มีเยอะมาก พอมีการพูดถึง หลายคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นการ์ตูนโป๊ จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกัน การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่คือการ์ตูนแนวปรัญญาบ้าง สะท้อนปัญหาสังคมบ้าง ซึ่งบางเรื่องภาพก็จะสมจริงแต่บางเรื่องภาพก็จะเหมือนการ์ตูนเด็กแต่มีความคิดซับซ้อนหรือเนื้อหาที่รุนแรงเกินกว่าที่เด็กควรได้รับ ในบ้านเราจะไม่ค่อยมีให้เห็นกันเลยอาจจะนึกกันไม่ค่อยออก


ที่น่ีก็คนเยอะเหมือนกันอีก ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็กๆมากับครอบครัว เรื่องที่สังเกตมานานแล้วคือ เด็กญี่ปุ่นล้มแล้วไม่มีใครร้อง ไม่รู้ว่าปลูกฝังกันยังไงถึงได้มีความอดทนสูงขนาดนี้ ไม่ใช่แค่นี้ ทั้งการต่อแถวขนาดว่าเราตัดหน้ามัน มันก็ยังเดินอ้อมมาต่อแถวหลังเรา ของที่ตั้งโชว์ในงานไม่ว่าจะที่ไหนส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรครอบไว้ เด็กเล็กๆก็ยังรู้ว่าห้ามจับก็คือห้ามจับ เป็นเรื่องดีสำหรับความอดทนของเด็กๆ แต่พอมามองคนญี่ปุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะเก็บอารมณ์กันสุดๆ ถึงแม้ท่าทางจะโอเวอร์กว่าเรา แต่จริงๆเป็นการบ่งบอกว่าแสดงออกมาเป็นมารยาทมากกว่า ที่นี่ในตัวอาคารไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ถ่ายได้แค่ด้านนอกนิดๆหน่อยๆ มาช่วงหน้าหนาวนี้หญ้าไม่เขียว บรรยากาศเลยดูแล้งๆไปหน่อย


 




Shibuya

อะไรจะสัญจรกันเยอะขนาดนี้ ทุกครั้งที่ไฟข้ามถนนเขียว ก็จะเห็นจำนวนคนมหาศาลเดินกันขวักไขว่


   ฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาแล้ว เป็นสุนัขของศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียว ที่ทุกเย็นจะมารอเจ้านายหน้าสถานีชิบุยะ วันนึงศาสตราจารย์เสียชีวิตด้วยเส้นเลือดแตกในสมองขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย ฮาจิโกะก็ยังมาเฝ้ารอเจ้านายทุกวันทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไม่ได้เจออีกแล้ว 



Akihabara

ศูนย์กลางการ์ตูน เกมส์ อะนิเมะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ cosplay และ AV


        ร้านอาหารยังมีหุ่นยนต์ต้อนรับเลย


Wonder Festival winter 2013

เป็นเวลา7เดือนแล้วจากที่มาคราวก่อน ครั้งนี้ไม่ต่อแถวแล้ว มาตอน11โมงที่เปิดให้เข้างานตรงๆเลย คิดในใจโมเดลตัวที่สนใจคงไม่มีทางได้ซื้อเพราะมันเขียนไว้ว่าของมีจำนวนจำกัดแค่ 300 ตัว แค่พวกกางเต็นท์นอนรอเข้างานก็คงกวาดไปหมดแล้ว พอมาถึงยังเห็นเหลืออีกตั้งเยอะ หลอกกันนี่หว่า  





 









                                   Rola                           Kyary pamyu pamyu                    ใครอะ? ใครรู้ช่วยบอกที









 



















3ตัวนี้เป็นโมเดลกระดาษ ทั้งๆที่ต่อยากแล้วก็ไม่ทน มันก็ยังมีคนพัฒนาให้ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ เป็นงานศิลป์จริงๆ 









ครั้งก่อนไม่ทันได้ถ่ายรูป cosplay ในงาน คราวนี้เลยตั้งใจจัดเต็ม แต่การถ่ายรูปต้องเข้าคิวและขออนุญาตทุกครั้ง จะถ่ายคนนึงก็รอในแถวเป็นสิบนาที คนไหนเรดติ้งดีหน่อยก็รอไปครึ่งชั่วโมง เลยได้รูปมาแค่นี้ ยืนรอถ่ายรูปยังหนาวเลย แต่งชุดกันแบบนี้คงไม่ต้องถาม


 













































หน้าตาเธอคุ้นๆนะ ถึงว่าคิวยาวจัง




Chiba Port Tower

อยู่งาน Wonder จนงานเลิกก็ยังเดินดูไม่ทั่วงานอยู่ดี ออกจากงานมาก็มืดแล้ว นั่งรถไฟไปอีกไม่ไกลมาถ่ายรูปตึก แต่มืดมากถ่ายออกมาแทบไม่เห็น โชคดีที่คราวนี้พกขาตั้งกล้องมา แบกมานึกว่าจะไม่ได้ใช้ซะแล้ว ไม่งั้นคงไม่ได้รูปตึกนี้มาสะสม สำหรับ20ทาวเวอร์ดังในญี่ปุ่น ตอนนี้ก็ไปมาครึ่งนึงแล้ว แต่ก็ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนทุกแห่ง หลังๆเริ่มเฉยๆละ ทาวเวอร์ที่เหลือแต่ละที่ก็ไกลๆกันทั้งนั้น ถ้าไม่มีอีเว้นท์อะไรแถวนั้นก็ไม่รู้จะไปทำไมเหมือนกัน


ขากลับมาขึ้นรถที่ Tokyo Disneyland ตอนแรกวางแผนจะเข้าไปถ่ายรูปเหมือนกัน แต่อยู่งาน Wonder นานไปเลยเข้าไปไม่ทันละ นั่งกินข้าวแถวพลาซ่าพอ ที่ศูนย์อาหารคนแน่นเลย แต่ดีที่พอเราสั่งอาหารแล้วไม่ต้องยืนรอ มีเครื่องส่งสัญญาณไว้บอกให้ไปรับ





รถบัสที่นั่งไปกลับ Tokyo-Osaka ต้นทางกับปลายทางเป็น2สวนสนุกใหญ่ในญี่ปุ่นเลย Disneyland กับ Universal โดยระหว่างทางแวะจอดในเมือง ตอนยืนรอรถขามา ข้างๆเห็นผู้หญิงยืนรอเต็มเลยเพราะว่าที่นี่เขามีรถสำหรับผู้หญิงอย่างเดียวด้วย ส่วนรถที่นั่งแถวนึงมีสี่ที่นั่งทางเดินคั่นกลางเหมือนบัสทั่วไป ไม่เหมือนครั้งก่อนมีสามแถวนั่งเดี่ยว คราวนี้ก็มีคู่ชายหญิงหลายคู่ สังเกตขามาเห็นผู้หญิงนั่งริมหน้าต่างส่วนผู้ชายจะนั่งติดตรงทางเดินกันหมด ขากลับ เพราะริมกระจกมันหนาวเราเลยสลับกัน และเพราะเราขึ้นต้นทางเลยนั่งกันคู่แรก พอคู่อื่นขึ้นบัสมาเห็นนั่งแบบนี้ ก็เลยพากันนั่งตามคือชายริมหน้าต่างหญิงติดทางเดินแทน ไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลรึป่าว ไม่ใช่แค่นี้ที่คนญี่ปุ่นมักทำตามๆกัน ทั้งเลือกร้านอาหารก็มักเลือกเพราะแถวยาว จริงๆไม่ใช่เพราะมันอร่อยกว่าร้านอื่นแต่พ่อครัวขาดร้านเลยทำอาหารไม่ทันคิวเลยยาว คือคนญี่ปุ่นทั่วไป ก่อนจะทำอะไรมักจะดูสถานการณ์ก่อน บางครั้งคงอยากทำนู่นนี่เหมือนกันแต่ถ้าไม่มีใครทำก็จะไม่ทำ ดังคำที่กล่าวว่า"คูกิโอ๊ะโยหมุ"คือดูสถานการณ์ก่อน ส่วนเว็บ Bumbleplay หน้า WF2 นี้อาจจะเขียนเป็นหน้าสุดท้ายแล้วเพราะทั้งเรื่องseverจะหมดอายุและก็เวลาเตรียมตัวสอบเข้าอีก ไม่แน่ถ้าว่างแล้วอาจจะกลับมาเขียนอีก ถึงตอนนั้นต้อง"คูกิโอ๊ะโยหมุ"อีกที สวัสดีครับ