Walk around Osaka

 Osakajo

  ถ้ามีโอกาสได้มาโอซาก้าแล้วที่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือปราสาทโอซาก้าครับ(เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากกลางเมือง และดูเหมือนจะใช้งบน้อยสุด) ด้านในจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับปราสาท มีชุดเกราะซามูไร ภาพวาดการรบสมัยก่อน เรื่องราว การขุดพบทองคำ ทางลับภายในปราสาท การสร้างใหม่หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจครับสำหรับคนชอบประวัติศาสตร์ รอบนอกมีสวนสาธารณะ กับพิพิธภัณฑ์ใกล้ๆอีกสองที่ครับ

 






















 อันแรกคือพิพิธภัณฑ์ Osaka Museum of Historyบอกเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของคนโอซาก้าในสมัยก่อนครับ ช่วงที่ผมไปพิพิธภัณฑ์มีจัดแสดงชุดเกราะนักรบซามูไรกับชุดเกราะนักรบยุโรป จัดแสดงชั่วคร่าวสองเดือน น่าเสียดายที่ในส่วนนี้ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปครับ

 พิพิธภัณฑ์อีกแห่งคือ Osaka Peace Museum เป็นเรื่องเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง ความน่าสะพึงกลัวและการสูญเสียจากสงครามครับ 

หากมีเวลาเดินให้ครบทั้งสามที่ดูครับ

Dotonbori - Shinsaibashi 

ถ้าพูดถึงแหล่งช๊อปวัยรุ่นในโอซาก้า ก็ต้องที่นี้เลยครับ ชินไซบาชิ ยาวไปจนถึงแถบริมแม่น้ำ dotonburi อย่าเข้าใจผิดว่าพามา"ดูธนบุรี" เรียกว่า"โดทนโบริ"ครับ


 แถบนี้มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ช่วงสงครามแล้วครับ ประวัติที่ว่าคือเคยโดนทิ้งบอมแล้วหายทั้งแถบ (รู้สึกว่าจะไม่ค่อยเกี่ยวกันกับเรื่องที่กล่าวอยู่ซักเท่าไร) แต่เอาเป็นว่าที่นี้ขายทั้งเสื้อผ้ารองเท้าเครื่องสำอางผู้หญิงให้เดินเลือกซื้อกันเป็นวันจนกระเป๋าแบนขายกระเป๋าตังทิ้งไปได้เลย ปัจจุบันหนึ่งวันมีนักท่องเที่ยวถึงแสนคนครับ เหลือเชื่ออีกแล้ว


ส่วนตึกHipsนี้มีหน้าผาจำลองให้ปีนอยู่หน้าตึกเลยครับ แต่เคยเกิดอุบัติเหตเลยไม่เปิดให้คนทั่วไปเล่นครับ

Nippombashi 

 วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่คนชาติอื่นโดยเฉพาะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจนั้นก็คือการ์ตูน สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วการ์ตูนไม่ใช่เรื่องของเด็กๆอย่างเดียวครับ แต่เป็นสื่อบันเทิงที่สามารถเข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะวัยไหนก็สามารถอ่านได้ดูได้ ใจกลางของวัฒนธรรมนี้อยู่ที่อะกิฮาบาระ โตเกียว ซึ่งรองลงมาคือนิปโปบาชิ โอซาก้า นิปโปบาชิเป็นย่านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและของเล่น(ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวข้องกันตรงไหน)อาจจะกลุ่มลูกค้าเดียวกัน


ในประเทศญี่ปุ่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะถูกใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก และมักจะเปลี่ยนใหม่ทิ้งของเก่าให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ จนเราคิดว่าเขาคงซื้อราคาถูกกว่าที่บ้านเรา แต่ความจริงซื้อที่ญี่ปุ่นแพงกว่าอยู่ดีครับ เว้นแต่ว่าจะตกรุ่นหมดฤดู ไม่ใช่แค่พวกอิเล็กทรอนิกส์ของใช้ทั่วไปที่นี้ราคาแพงกว่าบ้านเราหมด แต่พอตกรุ่นก็ลดกันแบบเป็นของไม่มีค่าไปเลย แต่มีสิ่งนึงที่กลับตรงข้ามกัน คือของจำพวกของเล่นครับ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วรายได้ที่สูงตามมาด้วยรายจ่ายที่สูงแต่ราคาของเล่นสำหรับคนญี่ปุ่นแล้วกลายเป็นของถูกไปเลยครับ ส่วนบ้านเราถึงรายได้จะไม่มากเท่าแต่ค่าครองชีพก็ถูกกว่าเยอะ พอเห็นราคาพวกของเล่นแล้วก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแพงโคตร ถึงแม้ราคาของเล่นญี่ปุ่นจะถูกกว่าในไทย ก็อย่าพึ่งตีตั๋วแบ็คแพ็คมานะครับ เพราะยังไงๆที่จีนก็ราคาถูกกว่าเวอร์เหมือนไม่ใช่เรื่องจริง 


Tennoji - Shinsekai

สำหรับวัดเทนโนจิเป็นวัดที่มีหอสูงประมาณตึกห้าชั้นถ้าดูเผินๆแบบไม่รู้ประวัติก็คงจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริงๆแล้ววัดนี้ประวัติยาวนานถึงพันสี่ร้อยปีซึ่งเป็นวัดศาสนาพุทธแห่งแรกของญี่ปุ่น หอที่เราเห็นว่ามันไม่ได้สูงใหญ่นี้ถ้าย้อนไปเมื่อพันปีที่แล้ว คงเป็นอะไรที่สูงเฉียดฟ้าเลยทีเดียว

แถบนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆอีก มีสวนสัตว์ติดกับสวนดอกไม้ด้านในมีพิพิธภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้โบราณ 

นอกจากนี้ยังมีหอซือเทนคาคุ สามารถขึ้นไปชมเมืองได้ โซนด้านล่างเป็นแหล่งขายพวกอาหารปิ้งย่างไว้นั่งชิมเบียร์ไปพรางครับ






Umeda

ย่านอุเมดะเป็นแหล่งเที่ยวแหล่งช๊อปอีกแห่งในโอซาก้าครับ มีตึกชินอุเมดะให้ขึ้นไปชมวิวได้ ถือเป็นหนึ่งในยี่สิบหอคอยญี่ปุ่น หากไปช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เราจะได้เห็นบรรยากาศทั้งตอนกลางวันและพอตกกลางคืนก็จะเห็นแสงไฟในยามค่ำคืนครับ


จากอุเมดะลงมาทางใต้นิดหน่อยแถวนากาโนะชิมามีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์เซรามิก ถ้าไปทางตะวันออกอีกก็มีพิพิธภัณฑ์เหร๊ยญ ข้ามไปใกล้ปราสาทโอซาก้าก็มีพิพิธภัณฑ์นวัฒกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของพานาโซนิกครับ 


BOOTH GUNPLA


บูทกันดั้ม หน้าตึกไดมารุ Umeda จัดแสดง22สิงหาคม2555






ที่ตึกไดมารุประตูทิศใต้สถานีรถไฟโอซาก้า ถ้านั่งใต้ดินก็สถานีUmedaครับ ตึกนี้ที่น่าสนใจก็จะมีพวกขนมขาย กับโปเกมอนเซนเตอร์ครับ ใครสนใจก็ลองมาเดินเที่ยวดูครับ ขนมที่ว่านั้นผมบอกไว้ก่อนนะครับ เป็นแบบกล่องหรูๆเหมาะสำหรับของฝากอย่างยิ่ง มีให้เลือกซื้อเยอะแยะลายตา แต่ถ้าจะหาซื้อกินเล่นแปลกๆ ไปดองกี้ดีกว่าครับแถวชินไซ

TOWER OF THE SUN EXPO PARK

     หากบังเอิญไปเดินเล่นในร้านขายของที่ระลึกตามแหล่งท่องเที่ยวในโอซาก้าแลัวเจอพวงกุญแจประหลาดหรือโปสการ์ดที่มีรูปวัตถุพิลึกพิลั่นคล้ายประติมากรรมลัทธิมนุษย์ต่างดาวนี้วางขายอยู่ เป็นใครก็คงอดคิดไม่ได้ว่า"ตัวไรเนี่ย แลัวใครมันจะบ้าซื้อไปเนี่ย" แต่หลังจากผมอาศัยอยู่มาสักพักนึงผมก็เริ่มรับรู้ที่มาและเข้าใจมันมากขึ้นมานิดนึง ออ...มันเป็นแบบนี้นี่เอง มันคืออนุสรณ์สถานจากงาน World Expo ปี1970 ที่จัดขึ้นในโอซาก้า(ทำนองเดียวกับหอไอเฟล) ถือเป็นงานในตำนานเพราะครองตำแหน่งคนเข้าชมเยอะที่สุดถึง64ล้านคน นานจนถึงปี2010พึ่งถูกทำลายสถิติไป 


(รูปในงานเมื่อปี1970 จะมีโครงสร้างเหล็กครอบยาวสามร้อยเมตร)

อนุสรณ์สถานนี้ตั้งประดับอยู่หน้างานที่จัดแสดงอยู่หกเดิอน หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในงานก็ถูกรื้อถอนหมดเหลือเพียงเสาปะลำปะลาต้นนี้ ส่วนความหมายของมันคือการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์และพลังของชีวิต โดยมีพระอาทิตย์ที่มีสามใบหน้า อดีต(ด้านหลัง) ปัจจุบัน และอนาคต(บนยอด)คอยกางแขนต้อนรับ (เขาว่ามาอย่างนี้เราก็ต้องเข้าใจตามเขาไป) 

นอกจากที่มันมีความหมายที่เราคาดไม่ถึงแล้วสมัยนั้นมันยังยิงแสงเลเซอร์ได้อีกอะไรมันจะฟูลออฟชั่นขนาดนี้(รูปในงานปี70 เลื่อนภาพลงดูได้)

ปัจจุบันที่นี่ปลูกเป็นสวนให้เข้าชม 250เยน กว้างพอสมควรเดินวนสวนครบก็แปดกิโล เป็นสถานที่ปิกนิกกันพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่เคยร้างผู้คนจริงๆ

รูปลาย black sun ที่อยู่ทางด้านหลังหมายถึงอดีตที่ผ่านมา....?














Americamura

  เป็นย่านเล็กๆที่ขายของนำเข้าจากอเมริกาอยู่ใกล้ๆกับชินไซบาชิ ถ้ามาในวันหยุดก็จะมีตลาดนัด ย่านนี้ก็ขายเสื้อผ้ารองเท้าเช่นกันแต่ก็ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่ก็แนว Punk, Harajuku Girl, Hippie ก็มี  แถวนี้เมื่อก่อนเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นตั้งแต่ปี70 หากไปแถบนี้อาจเจอเด็กบอร์ด,เด็กไบค์, Hipster, Emo 















   ร้านขายของไอเดียแก๋ๆที่ราคาถูกจริง พึ่งจะมีโอกาสได้เข้าหลังจากช่วงเปิดร้านใหม่ๆคนเห่อมากันจนต้องมารับบัตรคิวเข้าร้านกันแต่เช้า